วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552
การปฏิบัติธรรมตามสูตรหลวงปู่ดู่และหลวงตาม้า
หากกายสบาย จิตก็จะสบาย
การปฏิบัติธรรมตามแบบฉบับของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ไม่มีอะไรยากเพราะทุกคนสามารถทำได้ ขอแค่เพียงสละเวลาวันละ 3-5 นาทีมาปฏิบัติธรรมเป็นประจำทุกวัน ซึ่งจะทำที่ไหนก็ได้ อยู่บ้านก็ทำได้ ขอเพียงมีใจที่เคารพศรัทธาในพระรัตนไตรเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ก่อนจะเริ่มทำก็กราบพระเสียก่อน จะกราบที่หิ้งพระหรือที่หัวเตียงก็ได้ หากหัวเตียงไม่มีพระ ก็ให้นึกถึงพระแล้วกราบลงไป คนเราหากนึกถึงพระอยู่ กราบลงไปเมื่อใดก็ถึงพระท่านเสมอ
จากนั้นก็นั่งในอริยาบทสบายๆ จะนั่งขัดสมาธิก็ได้ จะนั่งเหยียดขาก็ได้ แล้วให้นึกท่องในใจว่า
"พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ"
ซึ่งพระคาถาบทนี้เรียกว่าพระไตรสรณคมน์ อันมีความหมายว่า
"ขอยึดเอาพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง"
หรือจะใช้บทพระคาุถามหาจักรพรรดิก็ได้ ซึ่งพระคาถานี้มีอยู่ว่า
"นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ มณีนพรัตน์ สีสหัสสสุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ
ยะธาพุทโมนะ พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อัคคีทานัง วะรังคันธัง สิวลีจะมหาเถรัง
อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ทาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ"
เลือกเอาบทใดบทหนึ่ง ซึ่งระหว่างท่องนั้นให้นึกถึงพระที่เราชอบไปด้วย จะเป็นพระพุทธชินราชก็ได้ พระพุทธโสธรก็ได้ พระพุทธนิมิตก็ได้ พระแก้วมรกตก็ได้ หรือจะเป็นหลวงปู่ดู่ก็ได้ เพราะหลวงปู่ดู่ท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า
"แกนึกถึงข้า ข้าก็นึกถึงแก แกไม่นึกถึงข้า ข้าก็ยังนึกถึงแก"
ให้ท่องในใจไปเรื่อยๆ ท่องจบก็เริ่มใหม่ ท่องจบก็เริ่มใหม่
อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทำด้วยใจสบาย ไม่ต้องเพ่ง ไม่ต้องเกร็ง
อย่างนี้เขาเรียกว่า ภาวนา
หากจำภาพพระที่เราชอบไม่ได้ ก็ให้หารูปมานั่งดู ดูรูปไปด้วยภาวนาไปด้วย ทำอย่างนี้วันละ 3-5 นาทีทุกๆวัน โดยข้าพเจ้าขอแนะนำให้ทำตอนตื่นนอนหรือไม่ก็ก่อนนอน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ธาตุขันธุ์(ร่างกาย)ได้รับการพักผ่อน จิตจะพลอยสบายไปด้วย นี่แหละคือกรรมฐานสูตรหลวงปู่ดู่
หลวงตาม้าท่านเคยกล่าวได้ใจความว่า
"กรรมฐานสูตรหลวงพ่อ(ดู่)เป็นกรรมฐานผู้ใหญ่
ครูคือพุทธะ ธัมมะ สังฆะ ครูคือหลวงพ่อ(ดู่)"
อันที่จริงแล้วหากจะให้ครบเครื่องเรื่องการปฏิบัติตามแนวหลวงปู่ดู่ จะต้องมีพระเครื่องอย่างน้อยหนึ่งองค์เอาไว้กำขณะภาวนา ซึ่งพลังงานพุทธคุณจากพระเครื่องจะช่วยให้จิตเราสงบเป็นสมาธิหรือเบาเย็นสบาย โดยขณะกำและภาวนานั้น ท่านให้นึกถึงองค์พระที่กำเอาไว้ด้วย ซึ่งถ้าหากว่าเป็นพระเครื่องที่สร้างและอธิษฐานจิตด้วยวิชาของหลวงปู่ดู่หลวงตาม้า จะสามารถดิ้นได้ เดินได้ เมื่อภาวนาไปจนใจสบาย จะพบว่าพระที่กำเอาไว้มีอาการดิ้นอยู่ในมือเลยทีเดียว
อีกทั้งเมื่อผู้ปฏิบัติธรรม ปฏิบัติไปจนถึงขั้นจิตละเอียดเบาสบาย ก็จะสามารถพูดคุยกับองค์พระที่เรานึกถึงหรือพระที่อยู่ในมือได้ ซึ่งองค์พระท่านสามารถตอบปัญหาในสิ่งที่เราสงสัยคาใจอยู่ได้เช่นกัน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าพระเครื่องที่อธิษฐานจิต ตามแนวทางหลวงปู่ดู่หลวงตาม้า สามารถพูดได้ทุกองค์ ซึ่งตรงนี้หลวงตาม้าท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า พระที่ท่านสร้างนั้น เราสามารถถามได้ทั้งสามโลกธาตุ เพราะท่านตอบได้ทั้งหมด อยู่ที่ผู้ปฏิบัติจะเข้าถึงหรือไม่ก็เท่านั้นเอง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ขออนุโมทนาครับ
ตอบลบวันที่29มีนาคม พ
ตอบลบลูกหลาน..หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า
วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552
การปฏิบัติธรรมตามสูตรหลวงปู่ดู่และหลวงตาม้า
หากกายสบาย จิตก็จะสบาย
การปฏิบัติธรรมตามแบบฉบับของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ไม่มีอะไรยากเพราะทุกคนสามารถทำได้ ขอแค่เพียงสละเวลาวันละ 3-5 นาทีมาปฏิบัติธรรมเป็นประจำทุกวัน ซึ่งจะทำที่ไหนก็ได้ อยู่บ้านก็ทำได้ ขอเพียงมีใจที่เคารพศรัทธาในพระรัตนไตรเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ก่อนจะเริ่มทำก็กราบพระเสียก่อน จะกราบที่หิ้งพระหรือที่หัวเตียงก็ได้ หากหัวเตียงไม่มีพระ ก็ให้นึกถึงพระแล้วกราบลงไป คนเราหากนึกถึงพระอยู่ กราบลงไปเมื่อใดก็ถึงพระท่านเสมอ
จากนั้นก็นั่งในอริยาบทสบายๆ จะนั่งขัดสมาธิก็ได้ จะนั่งเหยียดขาก็ได้ แล้วให้นึกท่องในใจว่า
"พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ"
ซึ่งพระคาถาบทนี้เรียกว่าพระไตรสรณคมน์ อันมีความหมายว่า
"ขอยึดเอาพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง"
หรือจะใช้บทพระคาุถามหาจักรพรรดิก็ได้ ซึ่งพระคาถานี้มีอยู่ว่า
"นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ มณีนพรัตน์ สีสหัสสสุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ
ยะธาพุทโมนะ พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อัคคีทานัง วะรังคันธัง สิวลีจะมหาเถรัง
อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ทาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ"
เลือกเอาบทใดบทหนึ่ง ซึ่งระหว่างท่องนั้นให้นึกถึงพระที่เราชอบไปด้วย จะเป็นพระพุทธชินราชก็ได้ พระพุทธโสธรก็ได้ พระพุทธนิมิตก็ได้ พระแก้วมรกตก็ได้ หรือจะเป็นหลวงปู่ดู่ก็ได้ เพราะหลวงปู่ดู่ท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า
"แกนึกถึงข้า ข้าก็นึกถึงแก แกไม่นึกถึงข้า ข้าก็ยังนึกถึงแก"
ให้ท่องในใจไปเรื่อยๆ ท่องจบก็เริ่มใหม่ ท่องจบก็เริ่มใหม่
อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทำด้วยใจสบาย ไม่ต้องเพ่ง ไม่ต้องเกร็ง
อย่างนี้เขาเรียกว่า ภาวนา
หากจำภาพพระที่เราชอบไม่ได้ ก็ให้หารูปมานั่งดู ดูรูปไปด้วยภาวนาไปด้วย ทำอย่างนี้วันละ 3-5 นาทีทุกๆวัน โดยข้าพเจ้าขอแนะนำให้ทำตอนตื่นนอนหรือไม่ก็ก่อนนอน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ธาตุขันธุ์(ร่างกาย)ได้รับการพักผ่อน จิตจะพลอยสบายไปด้วย นี่แหละคือกรรมฐานสูตรหลวงปู่ดู่
หลวงตาม้าท่านเคยกล่าวได้ใจความว่า
"กรรมฐานสูตรหลวงพ่อ(ดู่)เป็นกรรมฐานผู้ใหญ่
ครูคือพุทธะ ธัมมะ สังฆะ ครูคือหลวงพ่อ(ดู่)"
อันที่จริงแล้วหากจะให้ครบเครื่องเรื่องการปฏิบัติตามแนวหลวงปู่ดู่ จะต้องมีพระเครื่องอย่างน้อยหนึ่งองค์เอาไว้กำขณะภาวนา ซึ่งพลังงานพุทธคุณจากพระเครื่องจะช่วยให้จิตเราสงบเป็นสมาธิหรือเบาเย็นสบาย โดยขณะกำและภาวนานั้น ท่านให้นึกถึงองค์พระที่กำเอาไว้ด้วย ซึ่งถ้าหากว่าเป็นพระเครื่องที่สร้างและอธิษฐานจิตด้วยวิชาของหลวงปู่ดู่หลวงตาม้า จะสามารถดิ้นได้ เดินได้ เมื่อภาวนาไปจนใจสบาย จะพบว่าพระที่กำเอาไว้มีอาการดิ้นอยู่ในมือเลยทีเดียว
อีกทั้งเมื่อผู้ปฏิบัติธรรม ปฏิบัติไปจนถึงขั้นจิตละเอียดเบาสบาย ก็จะสามารถพูดคุยกับองค์พระที่เรานึกถึงหรือพระที่อยู่ในมือได้ ซึ่งองค์พระท่านสามารถตอบปัญหาในสิ่งที่เราสงสัยคาใจอยู่ได้เช่นกัน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าพระเครื่องที่อธิษฐานจิต ตามแนวทางหลวงปู่ดู่หลวงตาม้า สามารถพูดได้ทุกองค์ ซึ่งตรงนี้หลวงตาม้าท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า พระที่ท่านสร้างนั้น เราสามารถถามได้ทั้งสามโลกธาตุ เพราะท่านตอบได้ทั้งหมด อยู่ที่ผู้ปฏิบัติจะเข้าถึงหรือไม่ก็เท่านั้นเอง
Youngest son ที่ 11:48
1 ความคิดเห็น:
cromoly7 เมษายน 2558 08:39
ขออนุโมทนาครับ
ตอบ
‹
›
หน้าแรก
ดูเวอร์ชันสำหรับเว็บ
เกี่ยวกับฉัน
รูปภาพของฉัน
Youngest son
ดูโปรไฟล์ทั้งหมดของฉัน
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
.ค2562ลูกได้มีโอกาศไปร่วมพิธีหล่อพระที่จ.เพชรบูรณ์ที่จริงงานวันที่30แต่หนูเดินทางไปดูสถานที่ก่อนเพราะเป็นครั้งแรกที่ไปในชีวิตตื่นเต้นที่สุดพอได้กราบหลวงตาครอบวิมานแก้วให้พอกลับมาสวดมนต์ที่พักฝันว่าหลวงตา ลปหลวงตาม้าดีใจปลื่มปิติที่สุดในชีวิตเจ้าค่ะ